• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

เว็บบอร์ด กรุงเทพ Webboard Bangkok ลงประกาศฟรี

โพสเว็บบอร์ด กรุงเทพ กทม. บอร์ดคนเมือง ตลาดขายบ้าน คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อพาร์ทเมนท์ โรงแรม ที่อยู่อาศัย นนทบุรี กรุงเทพ และทั่วประเทศไทย ลงประกาศฟรี ซื้อ ขาย ออนไลน์ รวดเร็วทันใจ เว็บประกาศ ยอดนิยมใน กรุงเทพฯ Bkk คนไทยเทศ ประเทศไทย และเอเชีย


Backlink สายเทา

ข้อดี-ข้อเสีย ของไม้เอ็นจิเนียร์ ก่อนตัดสินใจติดตั้งพื้นไม้

Started by kaidee20, May 13, 2025, 08:21 AM

Previous topic - Next topic

kaidee20

ข้อดี-ข้อเสีย ของไม้เอ็นจิเนียร์ ก่อนตัดสินใจติดตั้งพื้นไม้

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นหนึ่งในตัวเลือกพื้นไม้ที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามเหมือนไม้จริงแต่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับวัสดุปูพื้นทุกประเภท ไม้เอ็นจิเนียร์ก็มีทั้งข้อดีที่โดดเด่นและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกข้อดีและข้อเสียของ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เพื่อให้คุณมีข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจว่าพื้นประเภทนี้เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของคุณหรือไม่
ข้อดี ของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ที่ทำให้เป็นที่นิยม

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีจุดเด่นหลายประการที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกยอดนิยมเหนือพื้นไม้ประเภทอื่นในหลายสถานการณ์:
[ol]
  • ความคงตัวสูง ทนทานต่อสภาพอากาศ: นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของไม้เอ็นจิเนียร์ ด้วยโครงสร้างแบบหลายชั้นที่นำมาอัดประสานและสลับเสี้ยนไม้ ทำให้มีการยืดหดตัวหรือขยายตัวน้อยมากเมื่ออุณหภูมิและความชื้นในอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วหรือรุนแรงกว่าพื้นไม้จริงแผ่นเดียว ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการควบคุมอุณหภูมิด้วยเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา หรือในคอนโดมิเนียมที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมบ่อยๆ
  • สวยงามเหมือนไม้จริง 100%: เนื่องจากชั้นบนสุดของไม้เอ็นจิเนียร์คือแผ่นไม้จริง (Wear Layer) คุณจึงได้พื้นผิวที่สวยงามตามธรรมชาติของชนิดไม้ต่างๆ เช่น โอ๊ค, วอลนัท, เมเปิ้ล, สัก พร้อมลวดลาย สีสัน และผิวสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของไม้แท้ ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหราไม่ต่างจากพื้นไม้จริงคุณภาพสูง
  • ติดตั้งได้หลากหลายและง่ายกว่า: ไม้เอ็นจิเนียร์มีความยืดหยุ่นในการติดตั้งสูง สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบลอยตัว (Floating) โดยไม่ต้องใช้กาวหรือตะปู (โดยเฉพาะรุ่นที่มีระบบคลิกล็อก) แบบติดกาว (Glue-down) หรือแบบยึดด้วยตะปู (Nail/Staple Down) ซึ่งการติดตั้งแบบลอยตัวและติดกาวทำให้สามารถปูทับบนพื้นคอนกรีตเดิม หรือพื้นกระเบื้องเดิมได้โดยตรงโดยไม่ต้องรื้อทิ้ง ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการปูบนระบบพื้นทำความร้อนใต้พื้น (Underfloor Heating System) ในหลายกรณี
  • ราคาเข้าถึงง่ายกว่าพื้นไม้จริง: โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นไม้จริงที่ทำจากไม้เนื้อแข็งชนิดเดียวกัน ไม้เอ็นจิเนียร์มักจะมีราคาต่อตารางเมตรที่ย่อมเยากว่าอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นผิวไม้จริงในงบประมาณที่จำกัดลงมา
  • ใช้ทรัพยากรไม้จริงน้อยกว่า: เนื่องจากใช้ไม้จริงเฉพาะในส่วนของชั้นบนสุดเท่านั้น ทำให้การผลิตไม้เอ็นจิเนียร์ใช้ไม้จริงจากป่าปลูกหรือไม้มีค่าในปริมาณน้อยกว่าการผลิตพื้นไม้จริงทั้งชิ้น ซึ่งในแง่มุมของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ถือว่ามีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ได้มากกว่า (ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของไม้และกระบวนการผลิต)
  • ทนทานต่อการใช้งาน: ด้วยโครงสร้างแบบหลายชั้นและแกนกลางที่แข็งแรง ช่วยให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทนทานต่อการบิดงอ โก่งตัว หรือการเกิดร่อง (Cupping/Warping) ได้ดีกว่า ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานภายใต้การดูแลที่เหมาะสม
[/ol]

ข้อเสีย/สิ่งที่ควรพิจารณา ของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์
แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ไม้เอ็นจิเนียร์ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ควรรับทราบก่อนตัดสินใจ:
[ol]
  • การขัดทำสีใหม่ได้จำกัดครั้ง: เนื่องจากชั้นไม้จริงด้านบน (Wear Layer) มีความหนาจำกัด (โดยทั่วไปประมาณ 0.6 มม. ถึง 6 มม.) ทำให้ไม่สามารถขัดผิวหน้าเพื่อทำสีใหม่ได้หลายครั้งเท่าพื้นไม้จริงที่ทำจากไม้แผ่นเดียว ความหนาของชั้นไม้จริงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดจำนวนครั้งที่สามารถขัดได้ หากชั้นไม้จริงบางมาก อาจไม่สามารถขัดทำสีใหม่ได้เลย หรือได้เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งานสูงสุดของพื้น
  • ไวต่อรอยขีดข่วนและรอยบุบ (บนชั้นไม้จริง): แม้โครงสร้างจะคงตัว แต่ชั้นบนสุดคือไม้จริง ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนไม้จริงทั่วไป คือสามารถเกิดรอยขีดข่วน รอยบุบ หรือรอยลึกได้หากมีการใช้งานหนัก หรือมีของตกใส่ หรือลากเฟอร์นิเจอร์หนักๆ โดยไม่มีการป้องกัน โดยเฉพาะหากเลือกไม้เนื้ออ่อนมาทำเป็นชั้นบนสุด ความทนทานต่อรอยขึ้นอยู่กับชนิดของไม้และความแข็งของผิวไม้จริง
  • คุณภาพมีความหลากหลายสูง: คุณภาพของไม้เอ็นจิเนียร์แตกต่างกันไปอย่างมากในท้องตลาด ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ชนิดของวัสดุที่ใช้ทำชั้นแกนกลาง ความหนาของชั้นไม้จริง และคุณภาพของกาว/สารเคลือบที่ใช้ การเลือกไม้เอ็นจิเนียร์ราคาถูกมากๆ อาจได้วัสดุที่มีชั้นไม้จริงบางมาก แกนกลางทำจากวัสดุคุณภาพต่ำ หรือมีปัญหาเรื่องความคงตัวได้ง่ายกว่าไม้เอ็นจิเนียร์เกรดสูง
  • ไม่ทนทานต่อน้ำท่วมขัง: แม้จะทนความชื้นและคงตัวได้ดีกว่าไม้จริง แต่พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ส่วนใหญ่ ไม่กันน้ำ 100% หากมีน้ำหกใส่แล้วปล่อยทิ้งไว้นาน หรือเกิดน้ำท่วมขัง น้ำอาจซึมผ่านรอยต่อหรือผิวหน้าลงไปทำลายชั้นแกนกลาง (โดยเฉพาะ HDF) ทำให้พื้นบวม พอง หรือเสียหายอย่างถาวร ไม่เหมาะกับการติดตั้งในห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีน้ำท่วมขัง
  • อาจมีสารเคมีในกระบวนการผลิต: กาวและสารเคลือบที่ใช้ในการผลิตไม้เอ็นจิเนียร์บางชนิดอาจมีการปล่อยสารระเหยอินทรีย์ (VOCs - Volatile Organic Compounds) ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพอากาศภายในอาคารได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานรับรองว่ามีการปล่อย VOCs ต่ำ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัย
[/ol]

ตัดสินใจติดตั้งไม้เอ็นจิเนียร์ ดีไหม?
คำถามว่าควรติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์หรือไม่นั้น ไม่มีคำตอบตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาข้อดีและข้อเสียข้างต้นประกอบกับความต้องการและข้อจำกัดเฉพาะของคุณ:
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมหาก:
[ul]
  • คุณหลงใหลในความสวยงามและสัมผัสของพื้นไม้จริง
  • ต้องการพื้นไม้ที่มีความคงตัวสูง ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
  • ต้องการติดตั้งบนพื้นคอนกรีต หรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเรื่องความชื้นบ้าง (แต่ไม่ใช่พื้นที่เปียกแฉะตลอดเวลา)
  • มองหาพื้นไม้จริงในราคาที่สมเหตุสมผลและเข้าถึงง่ายกว่า
  • ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
[/ul]
คุณอาจต้องพิจารณาตัวเลือกอื่นหาก:
[ul]
  • ต้องการพื้นไม้ที่สามารถขัดทำสีใหม่ได้หลายครั้งมากๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • ต้องการพื้นที่มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและรอยบุบสูงมาก (อาจต้องพิจารณาพื้นไม้จริงเนื้อแข็งพิเศษ หรือวัสดุอื่นที่มีความแข็งแรงผิวสูงกว่า)
  • ต้องการพื้นสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะมีน้ำท่วมขังหรือความชื้นสูงตลอดเวลา (เช่น ห้องน้ำ)
  • กังวลเรื่องสารเคมีและต้องการวัสดุที่เป็นธรรมชาติ 100% ที่ไม่มีการใช้กาวสังเคราะห์ (ต้องเลือกพื้นไม้จริงที่ใช้กาวหรือน้ำยาเคลือบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม)
[/ul]


พื้นไม้เอ็นจิเนียร์นำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสวยงามตามธรรมชาติของไม้จริงกับคุณสมบัติเด่นด้านความคงตัวและการติดตั้งที่ง่ายกว่า ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับบ้านและอาคารสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม การรับรู้ถึงข้อจำกัดเรื่องการขัดทำสีใหม่ได้จำกัดครั้ง และความไวต่อรอยขีดข่วนบนผิวหน้า รวมถึงการไม่ทนทานต่อน้ำท่วมขัง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่คุณควรทราบก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่คุณเลือกจะตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับคุณในระยะยาวครับ

Tags : ข้อดี ข้อเสียไม้เอ็นจิเนียร์ engineer

Tag Cloud