• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

เว็บบอร์ด กรุงเทพ Webboard Bangkok ลงประกาศฟรี

โพสเว็บบอร์ด กรุงเทพ กทม. บอร์ดคนเมือง ตลาดขายบ้าน คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อพาร์ทเมนท์ โรงแรม ที่อยู่อาศัย นนทบุรี กรุงเทพ และทั่วประเทศไทย ลงประกาศฟรี ซื้อ ขาย ออนไลน์ รวดเร็วทันใจ เว็บประกาศ ยอดนิยมใน กรุงเทพฯ Bkk คนไทยเทศ ประเทศไทย และเอเชีย


Backlink สายเทา

6 วิตามินไม่ควรทานก่อนนอน เสี่ยงกระทบการนอนหลับ

Started by dsmol19, Feb 27, 2025, 12:36 PM

Previous topic - Next topic

dsmol19


มีหลายเหตุผลที่คุณไม่ควรรับประทานอาหารเสริมบางชนิดในเวลากลางคืน ตัวอย่างเช่น อาหารเสริมบางประเภทอาจมีน้ำตาลหรือคาเฟอีน ซึ่งอาจรบกวนการนอนหลับได้ อีกทั้งวิตามินบางชนิดที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ ดี อี และเค ควรรับประทานพร้อมอาหารเพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น แต่ไม่แนะนำให้รับประทานอาหารมื้อใหญ่ในช่วงเย็น อาหารเสริม 6 ชนิดต่อไปนี้จึงเหมาะสำหรับการรับประทานในช่วงเช้าหรือกลางวันมากกว่า

6 วิตามินและอาหารเสริมที่ไม่ควรรับประทานตอนกลางคืน
1. วิตามินบี
วิตามินบีควรรับประทานในตอนเช้า เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานและช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า วิตามินบี 12 โดยเฉพาะสามารถช่วยลดความเหนื่อยล้าและอาการซึมเศร้าได้ อย่างไรก็ตาม วิตามินบีอาจมีผลกระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับหากรับประทานในช่วงดึก โชคดีที่วิตามินบีละลายในน้ำ สามารถรับประทานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอาหารรองท้อง

2. วิตามินรวมและสมุนไพรที่ให้พลังงาน
วิตามินรวมมักมีวิตามินบีและสารให้พลังงานอื่นๆ เช่น คาเฟอีน สารสกัดจากชาเขียว และโคเอนไซม์คิวเทน ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ นอกจากนี้ สมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นพลังงาน เช่น กัวรานา โสม และหน่อไม้ฝรั่ง ก็ควรหลีกเลี่ยงในช่วงกลางคืน

3. วิตามินดี
วิตามินดีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน และควรรับประทานพร้อมอาหารที่มีไขมันเพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึม มีงานวิจัยพบว่า การรับประทานวิตามินดีในปริมาณมากอาจลดการผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ เนื่องจากวิตามินดีมักเชื่อมโยงกับแสงแดด ร่างกายอาจเข้าใจผิดว่าควรตื่นตัวมากกว่าพักผ่อน ดังนั้นการรับประทานวิตามินดีในเวลากลางคืนอาจรบกวนการนอนหลับได้

4. แคลเซียม
แม้ว่าการรับประทานแคลเซียมในเวลากลางคืนจะไม่รบกวนการนอนหลับโดยตรง แต่แคลเซียมอาจลดประสิทธิภาพของแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น นอกจากนี้ วิตามินดีช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม ดังนั้นจึงควรรับประทานทั้งสองชนิดในช่วงกลางวันหรือมื้ออาหารหลัก และควรแบ่งการรับประทานแคลเซียมเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 500-600 มก. เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองจากการได้รับแคลเซียมมากเกินไป

5. วิตามินซี
วิตามินซีสามารถละลายในน้ำและย่อยได้ง่ายแม้รับประทานขณะท้องว่าง อย่างไรก็ตาม วิตามินซีมีความเป็นกรดสูง อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคกรดไหลย้อน การรับประทานวิตามินซีในตอนเย็นอาจไม่เหมาะสมสำหรับบางคน การเลือกวิตามินซีรูปแบบที่ไม่เป็นกรด เช่น แคลเซียมแอสคอร์เบต อาจช่วยลดการระคายเคืองได้

6. สังกะสี
สังกะสีเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มักพบในวิตามินรวม หรือรับประทานร่วมกับวิตามินซี การดูดซึมของสังกะสีมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรับประทานขณะท้องว่าง แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ ดังนั้นควรรับประทานพร้อมอาหารที่ไม่มีผลิตภัณฑ์จากนม เนื่องจากสังกะสีแข่งขันกับธาตุเหล็กและแคลเซียมในการดูดซึม ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพของกันและกันหากรับประทานร่วมกันในช่วงดึก

สรุป
หากต้องการให้การรับประทานวิตามินและอาหารเสริมมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรับประทาน วิตามินและอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มพลังงานหรือกระตุ้นการเผาผลาญ เช่น วิตามินบี วิตามินดี และวิตามินรวม ควรรับประทานในช่วงเช้าหรือกลางวัน ในขณะที่วิตามินหรือแร่ธาตุที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เช่น แมกนีเซียม ควรรับประทานในช่วงเย็นเพื่อช่วยในการนอนหลับ การเลือกเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมอย่างเต็มที่โดยไม่รบกวนการพักผ่อนของร่างกาย

Tags : วิตามินไม่ควรกินกลางคืน

Tag Cloud