แนวทางเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ทิ้งงาน รวมทั้งข้อแนะนำในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

[dsmol19]

1. ตรวจความเป็นมาแล้วก็มองผลงาน
จุดเริ่มที่สำคัญที่สุดของการตามหาบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีนั้นคือ การค้นหาและเลือกสรรบริษัทรับเหมาสร้างบ้านที่มีมาตรฐานแล้วก็ดูน่าวางใจ ด้วยการตรวจเรื่องราวแล้วก็มองผลงานการก่อสร้างก่อนหน้าที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณจะทดลองค้นหาชื่อบริษัทจากในอินเทอร์เน็ต หรือลองซักถามประสบการณ์จากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงที่เคยใช้บริการ คุณก็จะได้ข้อมูลอย่างคร่าวๆก่อนที่จะเริ่มพูดคุยเนื้อหากับผู้รับเหมาที่น่าดึงดูดและก็รู้สึกจะเข้าท่าจริงๆกับบ้านในฝันของคุณ



2. ขอใบเสนอราคาก่อสร้าง
ภายหลังจากหาผู้รับเหมาก่อสร้างที่พอใจได้สัก 2-3 รายแล้ว คุณจำเป็นต้องแจ้งเนื้อหาการก่อสร้างรวมทั้งขอใบเสนอราคาจากผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อให้ทราบมูลค่าการก่อสร้างทั้งหมดทั้งปวงที่คุณจำเป็นต้องจ่าย ซึ่งอาจรวมทั้งเนื้อหารวมทั้งมาตรฐานของวัสดุที่ใช้ แล้วนำใบเสนอราคาทั้งปวงมาเปรียบเทียบก่อนที่จะทำการตัดสินใจ ซึ่งการเสนอราคาก็สามารถสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานแนวทางการทำงานของผู้รับเหมาได้ และคุณก็จะได้เลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีในราคาที่เหมาะสมจากขั้นตอนนี้เอง



3. จะต้องมีสัญญาจ้างที่แน่ชัด
เมื่อพึงพอใจกับราคาที่ผู้รับเหมาสร้างบ้านเสนอมาแล้ว ก็ได้เวลาของการทำข้อตกลงจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ห้ามตกลงงานกันปากเปล่าเด็ดขาด โดยบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพจะเป็นผู้เสนอสัญญาว่าจ้างให้ท่านเองเลยโดยไม่ต้องวิงวอน ซึ่งในข้อตกลงควรจะมีการเจาะจงถึงกรอบช่วงเวลาการก่อสร้าง อุปกรณ์ที่ใช้ การแบ่งจ่ายเป็นงวดตามความคืบหน้าของงาน มีเงื่อนไขการรับประกันการก่อสร้าง และถ้าหากมีพาร์ตเนอร์ที่รับช่วงต่อในงานที่ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ถนัด ก็จำต้องกำหนดในคำสัญญาด้วย



4. มีมาตรฐานสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน
แม้คุณจะพากเพียรหาผู้รับเหมาให้ดียังไง สุดท้ายมาตรฐานที่แท้จริงก็จะเห็นได้เมื่อเริ่มงาน โดยผู้รับเหมาที่มีมาตรฐานนั้นต้องคิดแผนงานให้ท่านรู้อย่างเป็นระบบ แม้เป็นงานใหญ่จะต้องส่งวิศวกรหรือคนเขียนแบบของผู้รับเหมาก่อสร้างมาให้การดูแลถึงหน้างาน และที่ขาดไม่ได้เป็นเอกสารค่าใช้สอยสิ่งของ (Bill of Quantities หรือ BOQ) ที่บอกให้เห็นถึงการใช้วัสดุและก็ค่าใช้สอยระหว่างก่อสร้าง ซึ่งหากผู้รับเหมาก่อสร้างตกมาตรฐานไหนไป คุณต้องเรียกโดยทันทีอย่าได้ช้า



5. มีผู้ชำนาญตรวจรับงาน
การตรวจทานงานไม่ใช่แค่คนรับเงินมาเดินประกบคุณแล้วชี้ให้ดูโน่นนี่โน่นแล้วก็จบ แต่คุณจะต้องมีสถาปนิกหรือวิศวกรก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมตรวจตรา ซึ่งควรหาคนกลางมาเอง แม้กระนั้นหากหาไม่ได้ก็ควรจะมีวิศวกรฝั่งผู้รับเหมาก่อสร้างมาร่วมตรวจงานด้วย โดยบริษัทรับสร้างบ้านควรมีรายการตรวจทานงานอย่างแจ่มแจ้ง ถ้ามีอะไรที่ผิดจากที่เคยตกลงกันไว้จำต้องพร้อมปรับแก้ รวมทั้งเมื่อพิจารณาจนถึงแน่ใจว่าบ้านของคุณเพอร์เฟ็คแล้ว จึงค่อยจ่ายเงินงวดท้ายที่สุดเพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสิ้นการส่งงาน



การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับในการดำเนินโครงงานก่อสร้างบ้านที่ปลอดภัย และก็มีคุณภาพสูง
เพราะฉะนั้น นี่เป็น 10 ข้อเสนอแนะที่จะสามารถช่วยในกรรมวิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสม



1. เรียนรู้ และก็ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัท: เล่าเรียนเนื้อหาสาระเกี่ยวกับบริษัทรับสร้างบ้านที่คุณพึงพอใจ ซึ่งรวมถึงประวัติความเป็นมาของบริษัท รวมทั้งผลงานที่เคยทำมาก่อนหน้า
นอกเหนือจากนี้คุณยังสามารถอ่านรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทมีความน่าวางใจ และก็มีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ



2. ตรวจดูความถูกต้องทางด้านกฎหมาย: ตรวจทานว่าบริษัทมีใบอนุมัติ และการจดทะเบียนที่ถูกตามกฎหมายเพื่อมั่นใจว่าคุณได้ทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูกต้อง และก็เป็นธรรม



3. ดู รวมทั้งเปรียบเทียบราคา: ขอใบเสนอราคาจากบริษัทที่คุณพินิจพิเคราะห์ แต่ว่าอย่าตีราคาให้เป็นเพียงส่วนประกอบเดียวสำหรับการตกลงใจ เทียบราคากับคุณภาพ และบริการที่กำลังจะได้รับ

4. สำรวจเรื่องราวดำเนินงาน: มองผลงานที่เคยทำของบริษัทรับสร้างบ้านในอดีต ดูภาพถ่าย หรือเยี่ยมชมสถานที่โดยตรง เพื่อคุณได้พิเคราะห์คุณภาพของงานจากบริษัทที่มีประสบการณ์สำหรับการปฏิบัติการ



5. ไต่ถาม และสร้างเสริมความมั่นใจและความเชื่อมั่น: ติดต่อกับบริษัทเพื่อซักถามรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ ควรถามเรื่องช่วงเวลาในการดำเนินโครงงาน การติดต่อสื่อสาร และก็การแก้ปัญหา คุณควรจะทราบว่าบริษัทนั้นพร้อมจะให้การช่วยเหลือ แล้วก็คำแนะนำที่ดีตลอดกรรมวิธีการก่อสร้าง

6. ความเชี่ยวชาญในด้านที่คุณสนใจ: พิจารณาความเชี่ยวชาญของบริษัทรับสร้างบ้านในด้านที่คุณอยาก บางทีอาจเป็นการสร้างบ้านเบื้องต้นในนานัปการขนาดบ้าน เลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่อยาก



7. ประสิทธิภาพวัสดุ และก็เทคโนโลยี: ซักถามว่าบริษัทใช้วัสดุ รวมทั้งเทคโนโลยีที่ตามมาตรฐานไหม การใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงจะช่วยทำให้ได้รับสินค้าที่คงทน แล้วก็คงทนต่อการใช้แรงงานในระยะยาว

8. ช่วงเวลา รวมทั้งการมอบ: ไต่ถามเกี่ยวกับระยะเวลาที่บริษัทรับสร้างบ้านสามารถก่อสร้างบ้านให้เสร็จสิ้น และการส่งงานภายในช่วงเวลาที่กำหนด



9. การยืนยันคุณภาพ: ไต่ถามเกี่ยวกับการยืนยันคุณภาพของงาน ว่าบริษัทมีการค้ำประกันประสิทธิภาพงานสร้างบ้านหลังการส่งไหม แล้วก็ช่วงเวลาการยืนยันเป็นเท่าไร

10. การวิเคราะห์เอกสาร แล้วก็คำสัญญา: สำรวจเนื้อหาในคำสัญญารับเหมาก่อสร้างที่จะต้องทำกับบริษัทรับสร้างบ้าน แล้วก็อ่านเอกสารให้รู้เรื่องให้ดีก่อนที่จะลงชื่อในคำสัญญา ถ้ามีปัญหาหรือเปล่ารู้เรื่อง ควรจะถามไถ่ และก็เสวนากับบริษัทรับสร้างบ้านให้รู้เรื่องถูกต้องตรงกันทั้งสองฝ่าย



สรุป การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่สมควรเป็นขั้นตอนการที่จำเป็นต้องใช้เวลา และก็ความละเอียดรอบคอบ เพราะการสร้างบ้านเป็นแผนการที่ใช้เวลานาน รวมทั้งมีความสำคัญ
ฉะนั้นคุณควรทำการค้นคว้า และก็การตรวจทานอย่างพิถีพิถัน เพื่อคุณสามารถเลือกบริษัทที่เหมาะสม และมีคุณภาพที่สุดสำหรับการสร้างบ้านของคุณเอง
โดยควรใช้เวลาสำหรับการวิเคราะห์ และก็ประเมินตัวเลือกที่มีอยู่ พร้อมกระทำการเปรียบเทียบสิ่งที่คุณต้องการให้ครบบริบรูณ์เยอะที่สุด รวมทั้งเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่เข้ากันได้กับสิ่งที่จำเป็น รวมทั้งความมุ่งหวังของคุณ
อย่าลืมสำรวจคำสัญญาที่เจาะจงเงื่อนไข แล้วก็เนื้อหาต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจ และก็สารภาพข้อแม้ทั้งสิ้นก่อนจะลงนาม
การมีข้อตกลงที่ชัดแจ้ง เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจ และคุ้มครองปกป้องปัญหาในอนาคต

[Fern751]

ดันๆ

[Fern751]

 ดันกระทู้

[Fern751]

 บริษัทวารินแอคซิส ประทับใจสูงสุด